สิทธิมนุษยชน มักจะเป็นคำแรกเสมอเวลาเราได้ยินเรื่องอะไรสักอย่างที่ไม่ยุติธรรมซึ่งกันและกัน จนบางครั้งเราเองก็สงสัยนะว่า สิทธิมนุษยชนนี้เค้าครอบคลุมในเรื่องอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันว่าสิทธิมนุษยชนเค้าพูดกันเรื่องอะไร
สิทธิในการเลือกเพศ
เรื่องแรกมาแรงมาก หลังจากมีผู้รู้คนหนึ่งกำลังจะเปิดสัมมนาเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรในกรณีเค้าอยากเป็นเพศทางเลือก กลับโดนถล่มเละเนื่องจากมองว่า การเป็นเพศทางเลือกไม่ได้เป็นความผิด นี่ก็เป็นตัวอย่างการแสดงสิทธิมนุษยชนเช่นกันเค้าเชื่อกันว่าคนทุกคนสามารถมีสิทธิจะเลือกเพศของตัวเองได้ จะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือจะเป็นเพศทางเลือกอื่นๆ ก็ทำได้เช่นกัน ไทยเราเรื่องนี้ถือว่าเปิดกว้างมากขึ้น
สิทธิในด้านความเชื่อ
เรื่องของความเชื่อ และ ศาสนา บ้านเรามีมานานแล้ว นักสิทธิมนุษยชนมักเชื่อว่าคนเรามีสิทธิ์จะเชื่อหลักตามศาสนาใดก็ได้ หรือ จะไม่เชื่อศาสนา ไม่มีศาสนาเลยก็ได้เหมือนกัน เรื่องนี้ประเทศไทยถือว่าทำได้ดีนะ เนื่องจากประเทศไทยเปิดรับทุกศาสนา ทุกความเชื่อ อยู่รวมกันได้อย่างมีความสุข จะพุทธ คริสต์ อิสลาม เต๋า ซิกข์ ชินโต ฯลฯ ก็มีหมด ยังไม่นับรวมความเชื่อสุดแปลกที่ต้องบอกว่าไม่น่าจะมีก็มีจนกลายเป็นข่าวดังมาหลายรอบ หากความเชื่อเหล่านั้นไม่สร้างความเดือดร้อนก็ดีไป
สิทธิด้านการเมือง
ความแตกต่างอันร้อนแรงสุดในประเทศไทย คงหนีไม่พ้นเรื่องการเมือง การเมืองไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาถือว่าหนักมาก ยิ่งช่วงความขัดแย้งหนัก หรือที่เรียกกันว่า กีฬาสีนั้น ประเทศไทยอ่วมเลย ตามหลักสิทธิมนุษยชนเปิดกว้างในการนับถือลัทธิ ความเชื่อทางการเมืองของตัวเอง ใครจะนับถือใคร ชอบใคร พรรคไหนก็ตามต้องการ แต่ขออย่างเดียวอย่าทำเกินกฎหมาย ทำให้คนอื่นเดือนร้อนเป็นใช้ได้ หวังว่าช่วงกีฬาสีจะกลายเป็นปรากฏการณ์ให้คนไทยได้จดจำเอาไว้ว่าอย่าทำอย่างนั้นอีก
สิทธิด้านการเข้าถึงบริการของรัฐ
การเข้าถึงบริการของรัฐก็เป็นอีกหนึ่งหลักที่เหล่านักมนุษย์ชนพยายามเรียกหากให้เข้าถึงได้ในระดับเดียวกัน การเข้าถึงบริการของรัฐนั้นหากเราเป็นคนปกติก็ไม่เท่าไร เข้าถึงได้เกือบหมด แต่หากเป็นคนพิการการเข้าถึงบริการของรัฐยากถึงยากมาก เอาแค่การนั่งรถเมล์ การไปโรงพยาบาล ถือว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเค้าเลย ก็ได้แต่หวังว่าอนาคตรัฐจะออกกฎหมายบังคับให้มีการสร้างสวัสดิการเพื่อพวกเค้าให้เข้าถึงบริการของรัฐได้มากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการทำให้พวกเค้าอุ่นใจว่า แม้ว่าพวกเค้าจะพิการแต่ก็ยังสามารถดำรงชีวิตต่อได้ รัฐไม่ได้ทอดทิ้งพวกเค้าแต่อย่างใด